อิฐก่อสร้างมีอะไรบ้าง?

อิฐก่อสร้างมีอะไรบ้าง?

อิฐเป็นวัสดุก่อสร้างพื้นฐานสำหรับการก่อสร้างอาคารทั่วไป อิฐแบบธรรมดาผลิตจากส่วนผสมของดินเหนียว ทราย แกลบ และน้ำ อิฐมีหลายประเภทและลักษณะต่างๆ ซึ่งมีความเหมาะสมต่องานก่อสร้างแตกต่างกัน :

  1. อิฐมอญ (หรืออิฐแดง) : มีขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ชนิดทำมือ (ผิวจะขุขระ) และชนิดปั้นด้วยเครื่อง (ผิวจะเรียบและเบาขึ้น) อิฐมอญมีความสามารถในการยึดเกาะดีกว่าอิฐประเภทอื่นๆ และเหมาะสำหรับการใช้วัสดุกรุผนังที่มีน้ำหนักมากๆ
  2. อิฐบล็อก (หรืออิฐคอนกรีต) : ผลิตจากการผสมคอนกรีต ปูนซีเมนต์ ทราย และน้ำ อิฐบล็อกมีลักษณะเด่นคือมีรูกลวงตรงกลางและมีรูพรุนกระจายทั่วแผ่น ส่วนใหญ่จะมีสีเทา อิฐบล็อกช่วยลดการถ่ายเทของความร้อนได้ดีและสะดวกเมื่อก่อสร้าง
  3. อิฐมอญพิเศษ : อิฐพิเศษบางประเภทอาจใช้กรรมวิธีการอัดเข้าแม่พิมพ์ด้วยแรงกดสูง เพื่อเพิ่มความสามารถในด้านการป้องกันความร้อน และทนความชื้นได้สูง

การเลือกใช้อิฐให้เหมาะกับงานก่อสร้างและความต้องการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ ควรทำความเข้าใจกับลักษณะของอิฐแต่ละประเภทก่อนว่ามีความเหมาะสมกับงานก่อสร้างในด้านใด

 

อิฐบล็อกคืออะไร?

อิฐบล็อกเป็นวัสดุก่อสร้างที่ทำจากส่วนผสมระหว่างปูนซีเมนต์และทราย มีขนาดใหญ่และมีรูอยู่ตรงกลาง มีความแข็งแรงและทนทาน ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก มีราคาถูกและสะดวกในการก่อสร้าง อิฐบล็อกมีหลายประเภท ตามขนาด ความหนา และลักษณะของรู บางประเภทมีมาตรฐาน มอก.57-2533 และ มอก.58-2533 บางประเภทมีลายต่างๆ เช่น ลายดอกบัว ลายโบวลิ่ง ลายหูกระต่าย เป็นต้น อิฐบล็อกเหมาะสำหรับการก่อสร้างอาคาร โกดัง โรงงาน ที่ต้องการประหยัดงบประมาณและต้องการให้งานเสร็จไว

 

อิฐมวลเบาคืออะไร

อิฐมวลเบา หรือ คอนกรีตมวลเบา เป็นวัสดุก่อสร้างที่ถูกพัฒนาขึ้นจนเป็นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน วัสดุนี้ผลิตจากส่วนผสมของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทรายละเอียด ปูนขาว ยิปซั่ม และอลูมิเนียม ผสมเข้าด้วยกันผ่านกระบวนการผลิต จนได้ออกมาเป็นก้อนอิฐบล็อกตามขนาด อิฐมวลเบามีคุณสมบัติที่น่าสนใจ :

  1. น้ำหนักเบา : อิฐมวลเบามีน้ำหนักเบากว่าอิฐมอญ ทำให้ง่ายต่อการขนย้ายและใช้งาน
  2. ความแข็งแรง : อิฐมวลเบามีความแข็งแรงสูง และทนทาน
  3. ฉนวนความร้อน : อิฐมวลเบาเป็นฉนวนความร้อนได้ดี ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนในอาคาร
  4. มาตรฐานขนาด : ขนาดของอิฐมวลเบาเป็นมาตรฐาน และไม่มีเศษอิฐแตกหัก ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
  5. ป้องกันเสียง : ช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างห้องได้ดี

ความหนาของอิฐมวลเบามีหลายขนาด ซึ่งความหนาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับงานก่อสร้าง ตัวอย่างเช่น ผนังภายในที่มีความสูง 2.5 เมตร ใช้อิฐมวลเบาความหนา 7.5 เซนติเมตร หรือ ผนังภายนอกที่ต้องการป้องกันความร้อนและความชื้น ใช้อิฐมวลเบาความหนา 12.5 เซนติเมตร ดังนั้น การเลือกความหนาแน่นของอิฐมวลเบาในการก่อสร้างควรเลือกให้เหมาะสมกับตำแหน่งหรือจุดที่ใช้งาน

 

อิฐที่นิยมใช้ในงานก่อสร้าง

ในงานก่อสร้าง อิฐเป็นส่วนประกอบหลักที่มีความสำคัญ ซึ่งมีหลายประเภทและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้ :

1. อิฐมอญ (อิฐแดง) :

  • อิฐมอญมีขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 รูปแบบ :

                 ชนิดทำมือ: ผิวจะขุขระ

                 ชนิดปั้นด้วยเครื่อง : ผิวจะเรียบและเบาขึ้น

  • ผลิตโดยผสมดินเหนียว, น้ำ, แกลบ, และทรายในอัตราส่วนที่เหมาะสม
  • ใช้ก่อสร้างทั่วไป มีความทนทานต่อสภาพอากาศในประเทศไทย

2. อิฐมวลเบา :

  • มีขนาดที่เท่ากัน โดยทั่วไปมีความกว้างประมาณ 2.5-3 ซม., ยาวประมาณ 14-16 ซม., และหนาประมาณ 6-6.5 ซม.
  • ผลิตโดยการรีดขึ้นรูป และเผาเพื่อคงรูปและเพิ่มความแข็งแรง
  • ใช้ก่อสร้างทั่วไป มีความหนาแน่นสูง แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศในประเทศไทย

3. อิฐบล็อก :

  • มีขนาดที่เท่ากัน โดยทั่วไปมีขนาดประมาณ 12.5 ก้อนต่อตารางเมตร
  • ใช้ก่อสร้างที่มีน้ำหนักมากๆ สามารถใช้กับการก่ออิฐโชว์แนว ก่อผนังสไตล์ลอฟท์ วินเทจ หรือตกแต่งสวน

ควรพิจารณาความต้องการในการใช้งานและเลือกประเภทของอิฐที่เหมาะสมกับงานก่อสร้าง

 

อิฐมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่?

อิฐมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมในหลายด้าน ดังนี้ :

  1. ความทนทานและความยาวนาน : อิฐมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีความทนทานต่อสภาพอากาศ ซึ่งช่วยลดความต้องการในการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงอิฐบ่อยครั้ง นั่นหมายความว่ามีการใช้งานที่มีความยั่งยืนและลดการใช้งานทรัพยากรในระยะยาว
  2. ความกันความร้อน : อิฐมีความหนาแน่นสูง ซึ่งช่วยในการควบคุมอุณหภูมิในอาคาร ทำให้อาคารเย็นตลอดเวลา ลดการใช้พลังงานในการทำความเย็น
  3. การรักษาความเป็นส่วนตัว : อิฐมีความหนาแน่นสูง ทำให้มีการรักษาความเป็นส่วนตัวที่ดี ไม่มีเสียงดังจากภายนอก และป้องกันการรั่วไหลของลม ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นและทำความอบอุ่น
  4. การรักษาความเป็นส่วนตัว : อิฐมีความหนาแน่นสูง ทำให้มีการรักษาความเป็นส่วนตัวที่ดี ไม่มีเสียงดังจากภายนอก และป้องกันการรั่วไหลของลม ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นและทำความอบอุ่น
  5. การรักษาความเป็นส่วนตัว : อิฐมีความหนาแน่นสูง ทำให้มีการรักษาความเป็นส่วนตัวที่ดี ไม่มีเสียงดังจากภายนอก และป้องกันการรั่วไหลของลม ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นและทำความอบอุ่น
  6. การรักษาความเป็นส่วนตัว : อิฐมีความหนาแน่นสูง ทำให้มีการรักษาความเป็นส่วนตัวที่ดี ไม่มีเสียงดังจากภายนอก และป้องกันการรั่วไหล